หลังจากนั้นอีก 4 ปี คือในปลายปี ค.ศ.1966 แนวคิดของ Kleinrock และ Licklider เริ่มที่จะมองเห็นความเป็นไปได้มากขึ้น เมื่อ Lawrence G. Roberts แห่งมหาวิทยาลัย MIT ได้ไปที่ DARPA และนำแนวคิดทั้งสองมาผูกโยงเข้าด้วยกันภายใต้โครงข่ายที่มีชื่อว่า "ARPANET" ซึ่ง Roberts ได้ประกาศแนวคิดนี้ออกสู่สาธารณะในปี ค.ศ.1967
ในช่วงเวลาเดียวกับที่ MIT ได้ทำการพัฒนาแนวคิดดังกล่าว (ค.ศ.1961-1967) ขณะนั้นก็มีอีก 2 สถาบันที่ได้ดำเนินการวิจัยมาพร้อมๆ กัน คือ RAND ภายใต้การนำของ Paul Baran ซึ่งวิจัยเรื่องการนำ Packet Switching มาใช้ในการส่งข้อมูลทางการทหาร (ค.ศ.1962-1965) และ NPL ของประเทศอังกฤษ โดย Donald Davies และ Roger Scantlebury ก็ได้พัฒนาแนวคิดเรื่อง Packet Switching ให้เป็นความจริงขึ้นมา (ค.ศ.1964-1967) โดยที่แต่ละฝ่ายต่างไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าขณะที่ทำการวิจัยในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้มีสถาบันอื่นเริ่มต้นการวิจัยในหัวข้อเดียวกัน (ผลการวิจัยเรื่อง Packet Switching ของ NPL นี้ได้ช่วยให้ ARPANET สามารถปรับปรุงความเร็วในการรับส่งข้อมูลจาก 2.4 kbps ไปเป็น 50 kbps ในเวลาต่อมา)
ARPANET ได้กลายเป็นความจริงขึ้นมาในเดือนกันยายน 1969 เมื่อมีการเชื่อมต่อโฮสต์ของสถาบันวิจัยต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยมีโหนดแรกอยู่ที่ UCLA ดูแลโดย Kleinrock ซึ่งเป็นส่วนของ Network Managemant Center โหนดที่สองอยู่ที่ SRI (Stanford Research Institute) ทำหน้าที่ดูแลเก็บรักษารายชื่อของโฮสต์และ IP Address ทั้งหมดในเครือข่าย ต่อมามหาวิทยาลัย UC Santa Barbara และ University of Utah ก็เป็นอีก 2 โหนดที่เชื่อมต่อเข้าไปยัง ARPANET เพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเรื่องการ refresh หน้าจอและการแสดงผลแบบ 3 มิติบนเครือข่าย ดังนั้นจนถึงสิ้นปี ค.ศ.1969 จำนวนโฮสต์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อในเครือข่าย ARPANET จึงมีเพียง 4 โฮสต์เท่านั้น
เดือนธันวาคมปีต่อมา ในขณะที่จำนวนโฮสต์ที่เชื่อมต่อเข้าสู่ ARPANET เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง Network Working Group (NWG) ภายใต้การนำของ S. Crocker ก็ได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโปรโตคอลที่ใช้ในการติดต่อระหว่างโฮสต์ โดยตั้งชื่อว่า Network Control Protocal (NCP) ซึ่งโปรโตคอลดังกล่าวได้ถูกนำมาติดตั้งใช้งานในเครือข่าย ARPANET จนเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1972 ซึ่งนับจากนั้นมา การพัฒนา Application ต่างๆ บนเครือข่ายก็เริ่มต้นขึ้น โดยในเดือนมีนาคมปีเดียวกันนั้นเอง โปรแกรมในการรับส่งข่าวสารผ่าน email โปรแกรมแรกได้ถูกเขียนขึ้นโดย Ray Tomlinson และต่อมาในเดือนกรกฎาคม Lawrence G. Roberts ก็ได้เขียนโปรแกรมรับส่ง email ซึ่งมีอรรถประโยชน์สูงขึ้น เช่น สามารถแสดงรายชื่อ email ที่ได้รับและเลือกเปิดอ่านได้ รวมทั้งการตอบกลับและการทำ forward ซึ่งกลายมาเป็นต้นแบบของโปรแกรมรับส่ง email ที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในทุกวันนี้
จากพัฒนาการในด้านต่างๆ ที่กล่าวมา และความแพร่หลายของ PC และเทคโนโลยีเครือข่ายขนาดเล็กในช่วงทศวรรษ 1970 จนมาถึงปี ค.ศ.1985 เครือข่าย Internet ก็เริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ด้วยความนิยมในการใช้งาน Email Application และด้วยแนวคิดเรื่อง World Wide Web และ Browser ในทศวรรษต่อมาซึ่งนำมาสู่ความยิ่งใหญ่ของเครือข่าย Internet ในปัจจุบัน